พอดีเรียนจบแล้ว ไม่เคยไปภาคเหนือมาก่อนในชีวิต ชีวิตนี้มีแต่ทะเลๆ อยากลองไปแอ่วเหนือกับเค้าบ้างไปกันสองคนกับเพื่อนสาว ที่มีความทนทานพอสมควรกันทั้งคู่
ส่วนใหญ่อ่านรีวิวในpantip ก็จะเป็นแบบคนมีรถกันเนอะ ไอ้เราก็ขับรถไม่แข็ง อย่ากระนั้นเลย ขึ้นรถแดงกันดีกว่า

พูดถึงรถแดงในเชียงใหม่ เราชอบนะ เป็นความแรนดอมอย่างหนึ่ง
อย่างแรก ไม่รู้เค้าจะรับไหม ถ้าคนละทางก็ไม่รับ แต่เวลาไม่รับเค้าก็จะเกรงใจ พูดเบาๆ เราก็จะไม่แน่ใจว่ารับหรือไม่รับนะ 5555+
อย่างสองขึ้นไปไม่รู้ทิศทาง ไม่แน่ใจว่าที่ไหนตลอดเวลา แต่ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรกับคนหลงทางตลอดเวลาอย่างอิฉัน มันหลงเป็นปกติอยู่แล้ว 5555+
คำเตือน
รีวิวดิบมาก ไม่มีภาพถ่ายฮิปสเตอร์ ถ่ายแบบกล้องลั่น(ผิดที่ลิงหลังกล้อง) ไม่ปรับสี ไม่แต่งภาพ(เพราะทำไม่เป็น)
เน้นเที่ยวแบบเก็บเควสในเวลาอันสั้น ไม่ประหยัด อยากกินอะไรต้องได้กิน
ช่วงแรกๆอาจรูปน้อยหน่อยตามค่าสติของจขกท
กระทู้ยาวหน่อยนะคะ
สิ่งที่ควรพกพาไป
แบงค์20จำนวนมาก
ยาแก้เมารถ
แผนคือ
D1 เที่ยวดอยสุเทพด้วยตนเอง เดินถนนคนเดิน
D2 เที่ยวดอยอินทนนท์แบบซื้อทริป
D3 ไม่รู้ ไปตายเอาดาบหน้า
เริ่มต้นที่ Day1
เริ่มต้นที่สนามบินดอนเมือง ไปกับไลออนแอร์ ตั๋วไม่โปรแต่จะไป
เครื่องออก5.50 ไปถึงโน่นก็ประมาณ7.05 เมาขี้ตากันเลยทีเดียว
สำหรับการเดินทางจากสนามบิน ถ้าออกมาก็จะมีแท็กซี่ กับรถแดงให้บริการอยู่
แต่เดี๋ยวก่อน เนื่องจากว่าเราโชคดี มีพี่ที่รู้จักกันมารับ เย้!!!
มื้อแรกในการเที่ยวเชียงใหม่ พี่ใหม่พาไปกินโจ๊กสมเพชรอันเลื่องชื่อ
อันนี้เฉยๆ ขอผ่านเลยไม่ได้ถ่ายรูปมา (จริงๆคือลืม)
เค้าว่ากันว่าว่า ร้านนี้เค้าไม่เคยล้างหม้อเลย เพราะว่าเค้าจะเติมตลอดเวลาเป็นร้านเปิด24ชม.
จากนั้นแวะประตูท่าแพซื้อ one day trip ดอยอินทนนท์ ซื้อมันร้านแรกที่เจอ ไม่ได้ต่อราคา ได้มา900บาท แล้วก็เข้าที่พัก
ที่พัก เราจองผ่านagodaไว้ที่ อินดี้เฮาส์ แอทนิมมาน ราคาคืนละ 600 บาท นอนกัน 2 คน

อันนี้รูปหน้าที่พัก ขโมยมาจากอโกด้า ลืมถ่ายจ้า
อยู่ที่นิมมานซอย9 ติดกับร้านตัดผม โอบีวัน ปากซอยมีกาแฟสตาบั๊ค กาแฟวาวี มนต์นมสด ข้ามฝั่งตรงข้ามไปเซเว่น
เหตุที่เลือกคือ ได้ทำอาหารเช้าเอง 55555+ ไร้สาระสิ้นดี
ขอรีเควสไปว่าขอเตียงเดี่ยวสองเตียง ได้ค่ะ คุณได้สิทธินั้นเดี๋ยวนี้



เป็นเกสเฮาส์อารมณ์ไปนอนบ้านเพื่อนมากๆ ตั้งใจจะเอากระเป๋าไปเก็บเข้าไปก็เจอพี่ที่ดูแลบอกว่าห้องว่างเข้าได้เลยจ้า กินข้าวเช้าเลยก็ได้
ประทับใจจัง แต่ว่ากินมาแล้ว เราเลยออกเดินทางต่อไปดอยสุเทพ
ตอนแรกพี่ใหม่บอกว่าจะไปส่งท่ารถขึ้นดอย แต่ไปๆมาๆไปส่งบนดอยซะงั้น
สำหรับใครที่ไม่มีรถ
+ สามารถโบกรถแดงจากนิมมานไป บอกว่าท่ารถขึ้นดอยสุเทพ ราคาประมาณ20บาท
(สำหรับราคาโบกรถแดงโดยทั่วไปจะประมาณ20บาท บางทีอาจมากกว่านั้นถ้าคนน้อยหรือคนขับติสท์ ก็จงใช้วิจารณญาณกันเอาเอง)
+ จากท่ารถขึ้นดอย น่าจะประมาณ60บาทถ้าจำไม่ผิด
จู่ๆก็ว๊าบบ มาอยู่บนดอย ยืนงงๆเคว้งขว้างเมาขี้ตาแป๊บ
อ๊ะ ใช่แล้ว ต้องขึ้นไปไหว้พระก่อน รู้สึกว่าเค้าจะมีกระเช้าด้วย แต่จากการไปยืนส่องพบว่าไม่ไกลมาก เลยตัดสินใจเดิน
ระหว่างทางพบเด็กดอยเพศหญิงจำนวนมาก หน้าตาน่าร้ากก

แต่เดี๋ยวก่อนน้องๆ ตรงดิ่งเข้ามาหา พร้อมตะโกนเสียงแหลมดัดๆว่า
“พี่ค้า พี่คนสวยถ่ายรูปกับหนูไหมค้า หรือจะไม่ถ่ายให้ตังหนูไปขนมอย่างเดียวก็ได้น้า ถ่ายกะหนูหน่อยน้า พี่คนสวย” พูดวนประหนึ่งอัดเทป
รู้สึกปลอม ขอผ่านละกัน ปลอมตั้งกะเรียกพี่คนสวยละ 55555+
เดินขึ้นไปเรื่อยๆ เหนื่อยๆพอตึงๆ เริ่มรู้สึกว่าเราเป็นอาณานิคมของชาวจีนอยู่เล็กๆ จะพบเห็นชาวจีนถือไม้เซลฟี่เป็นระยะๆ
ขึ้นมาถึงก็เดินวนรอบๆ ดูทิวทัศน์เมืองเชียงใหม่


สวัสดีคุณแม่ (mom) //ผิดส์

ทำบุญหลังคา

ไหว้พระด้านหน้าเสร็จ ก็เดินเข้าไป เจอแลนด์มาร์คละ พระธาตุดอยสุเทพ

ฟ้าไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เหมือนฟ้าวิปริตแปรปรวนทันใด อังกอร์ //ผิดส์
รู้สึกว่าเกิดปีแพะจะให้ไหว้พระธาตุดอยสุเทพด้วย ตรงปีเป๊ะ ก็จะมีบัตรเคลือบแข็งให้ท่องตาม วนๆรอบพระธาตุ3รอบ

เซียมซีได้เบอร์9 คือซวยมากเลยไม่ได้เก็บมา
ขาลงมา เจอนักท่องเที่ยวถ่ายรูปกับแม่หนู พี่คนสวนที่ชวนถ่ายรูปปรากฏนางเอามือถือไปเซลฟี่เอง ผ่านแอพ360เอง รู้สึกโลกหมุนเร็วดีนะ 555+

ลงมาแวะกินวาฟเฟิลคุณลุง รสชาติคาดเดาได้ อร่อยดี เป็นวาฟเฟิลไส้กรอก มีวาฟเฟิลกล้วยด้วยแต่ไม่ได้ลอง น่ากินอยู่

เดินขึ้นไปเรื่อยๆ เหนื่อยๆพอตึงๆ เริ่มรู้สึกว่าเราเป็นอาณานิคมของชาวจีนอยู่เล็กๆ จะพบเห็นชาวจีนถือไม้เซลฟี่เป็นระยะๆ
ขึ้นมาถึงก็เดินวนรอบๆ ดูทิวทัศน์เมืองเชียงใหม่


สวัสดีคุณแม่ (mom) //ผิดส์

ทำบุญหลังคา

ไหว้พระด้านหน้าเสร็จ ก็เดินเข้าไป เจอแลนด์มาร์คละ พระธาตุดอยสุเทพ

ฟ้าไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เหมือนฟ้าวิปริตแปรปรวนทันใด อังกอร์ //ผิดส์
รู้สึกว่าเกิดปีแพะจะให้ไหว้พระธาตุดอยสุเทพด้วย ตรงปีเป๊ะ ก็จะมีบัตรเคลือบแข็งให้ท่องตาม วนๆรอบพระธาตุ3รอบ

เซียมซีได้เบอร์9 คือซวยมากเลยไม่ได้เก็บมา
ขาลงมา เจอนักท่องเที่ยวถ่ายรูปกับแม่หนู พี่คนสวนที่ชวนถ่ายรูปปรากฏนางเอามือถือไปเซลฟี่เอง ผ่านแอพ360เอง รู้สึกโลกหมุนเร็วดีนะ 555+

ลงมาแวะกินวาฟเฟิลคุณลุง รสชาติคาดเดาได้ อร่อยดี เป็นวาฟเฟิลไส้กรอก มีวาฟเฟิลกล้วยด้วยแต่ไม่ได้ลอง น่ากินอยู่

ลงมายืนงงๆอีกครั้ง พี่คิวรถแดงก็เข้ามาคุย

สรุปเราจะขึ้นไปบนบ้านม้งดอยปุยกับพระตำหนักภูพิงค์ เหมาไปกลับมาส่งที่เดิมคนละ150 ไม่ต้องรอรถเต็ม 4คนก็ไปละ ก็นั่งรถกันไป

เริ่มจากที่สูงสุดก่อน เป็นหมู่บ้านม้ง ลงจากรถมาก็เจอเด็กผู้ชายวัยประถมคนนึงมาถามว่า พี่คับ ให้ผมเป็นไกด์พาเที่ยวไหมคับ
ไอ้เรายังหลอนจากน้อง พี่คนสวยอยู่ แต่พอหันไปหาพี่คนขับเค้าบอกว่า ลองดูก็ได้แล้วแต่จะให้ โอเค จัดไปลูก
ปรากฏน้องน่ารักมากกกก ตั้งใจทำหน้าที่ไกด์มาก พูดไม่หยุดเลย ฟังทันบ้างไม่ทันบ้าง
น้องชื่อลี มาเป็นไกด์เฉพาะวันศุกร์เสาร์อาทิตย์ วันธรรมดาไปเรียน ได้ตังมาก็จะเอาไปให้แม่ แม่มีร้านขายของด้วยนะ
รูปน้องลี

เราก็เดินผ่านทางที่มีของขายเยอะๆไป จริงๆจะว่าไปของที่นี่ขายถูกกว่าที่ถนนคนเดินด้วยแหละ ของที่ขายก็มีพวกชา หญ้าหวาน กระเป๋า เครื่องเงิน หินสี อะไรงี้
อันนี้เป็นร้านของแม่ของน้องเค้า ซื้อกระเป๋าเล็กๆไปสองอัน เอาใจน้องลี55555+

ขึ้นไปก็จะมีด่านเก็บเงิน10บาทเข้าชมสวนดอกไม้กับพิพิธภัณฑ์ชาวม้ง ก็จ่ายเข้าไป

ในส่วนของพิพิธภัณฑ์ชาวม้งก็จะมีพวกเครื่องใช้ต่างๆ น้องลีบอกว่าจริงๆมันไม่ได้เก่านะ แต่เค้าเอามาทำให้มันดูเก่า (ชะอ้าววว ไหงบอกแขกซะงั้นละลูก 5555+)

มีกลองส่งวิญญาณ? ถ้ามีคนตายถ้าเป็นคนดีๆนะ ตีกลองแล้วเค้าจะปรู๊ดดดดด ขึ้นไปอยู่บนฟ้า แต่ถ้าเป็นคนไม่ดีนะตู้มมมมจะลงนรก

มีพวกเครื่องแต่งกายม้งให้ดู

ถ้าใครอยากคอสเพลย์ข้างนอกก็มีให้คอสนะ ราคา50บาท เช่าตะกร้าม้งเป็นแอซเซสเซอรี่เพิ่มได้

น้องลีพาเดินขึ้นสวนดอกไม้


แดดเปรี้ยงปร้างเลย แต่สวย เดินผ่านพิพิธภัณฑ์มีชีวิต จะมีจำลองบ้านม้ง

น้องลีบอกว่าบ้านนี้มีผี แต่ผีจะหลอกแค่คนม้งเท่านั้น คนอื่นไม่หลอก (เอ๊ะยังไง ผีม้งดีกับการท่องเที่ยว) น้องเคยเจอหลายครั้ง
น้องลีบอกว่า ในบ้านม้งสมัยก่อนจะมีชั้นสอง (อารมณ์ประมาณเอาบันไดแปะแล้วขึ้นชั้นลอย ) ถ้าหากผีมา พ่อชาวม้งจะให้ลูกกะแม่ขึ้นไปข้างบนแล้วตัวเองอยู่ข้างล่างแล้วเอาบันไดออก ถ้าผีไปแล้วพ่อจะเอาบันไดไปรับ
แล้วถ้าพ่อตายล่ะลูก???? ป้าก็ฟังแล้วงงๆ
น้องพาไปดูที่โม่ข้าวโพด หนักอยู่ น้องลีบอกว่า ต้องเป็นผู้ชายม้งที่แข็งแรงเท่านั้น ถึงจะใช้ได้ ลองขยับดูก็ขยับนิดหน่อย
น้องบอกว่า ต้องเป็นผู้ชายม้งที่แข็งแรงเท่านั้น ผมเคยมาใช้กับเพื่อน ต้องใช้เด็กผู้ชายม้งสามคน
สงสัยอ่ะ เป็นผู้ชายแข็งแรงไม่ม้งใช้ได้ไหม 55555+ รักในน้ำเสียงจริงจังของน้องมาก
พอเดินผ่านสวนดอกไม้ขึ้นไป ข้างบนจะเป็นร้านกาแฟดอยปุย มองลงไปวิวสวยดี



จัดมากันคนละแก้ว มอคค่า กะคาราเมลมัคคิอาโต้

น้องลีบอกว่า แขกที่พามาชอบถามว่าจะกินอะไรไหม ผมก็ไม่อยากกิน แค่เค้าก็ชอบรบเร้า โอเคได้ ป้าไม่ถามละ 5555+
ขาเดินลง น้องลีได้คุกกี้มากล่องนึง เจ้าของร้านให้ ถามน้องว่าชอบกินคุกกี้เหรอ
น้องบอกว่าชอบคับ ข้างบนไม่ค่อยมีขนมกิน ผมอยากกินแฮมเบอร์เกอร์กับพิซซ่ามากเลย ไม่เคยกิน เคยแต่เห็นในทีวี พ่อเคยซื้อของเซเว่นมาให้ แต่ไม่อร่อย ถ้าผมโตแล้วทำงานมีเงินเยอะๆผมจะไปซื้อมากิน ไม่กล้าขอแม่แม่บอกว่าสิ้นเปลือง
ทำไมน่ารักอย่างงี้อ่ะลูกกกกกกกก
น้องลีพาไปดูบ่อปลา บอกว่านี่ปลาปิรันย่านะ แต่ป้าว่ามันปลาคาร์ฟนะลูก

น้องพาไปดูฝั่งน้ำตก


แต่น้ำน้อยมากจนนึกว่าไม่ใช่น้ำตก5555+ น้องบอกว่าหน้าฝนน้ำจะขึ้นมาเต็ม
ระหว่างนั้นมีเด็กผู้ชายคนนึงวิ่งมา แล้วก็เปลือยกาย อิป้าก็ตกใจ น้องลีบอกว่าเพื่อนมาอาบน้ำ พี่ทดสอบได้นะ

ทดสอบ???? ห๊ะ ให้ป้าทำไร? ฮีบอกว่า ให้โยนเหรียญลงไป แล้วเดี๋ยวเพื่อนจะว่ายน้ำไปเก็บเอง
อ๋อ เป็นการหลอกเอาตังป้า รู้เค้าหลอกแต่เต็มใจให้หลอก555555+
น้องคนที่อาบน้ำก็จ้างสิบเล่นหมื่นมาก เหรียญบาททำประหนึ่งแบงค์ร้อย ตลกดี

ก็เดินลงมา ป๊ะกับป้ายนี้ สตั๊นแป๊บ

ชักภาพกับน้องลี ก่อนจะกลับลงดอยไป

ให้ตังน้องเค้าไป100นึง ถามน้องว่าปกติเค้าให้กันเท่าไหร่ น้องบอกว่า 20-40 บางคนใจดีก็ให้100นึงแน่ะ เอาจริงๆนะ เราว่า100นึงคือคุ้มมาก อยากให้มากกว่านี้ แต่ป้าเองก็ยังไม่ทำงานเหมือนกัน

สรุปเราจะขึ้นไปบนบ้านม้งดอยปุยกับพระตำหนักภูพิงค์ เหมาไปกลับมาส่งที่เดิมคนละ150 ไม่ต้องรอรถเต็ม 4คนก็ไปละ ก็นั่งรถกันไป

เริ่มจากที่สูงสุดก่อน เป็นหมู่บ้านม้ง ลงจากรถมาก็เจอเด็กผู้ชายวัยประถมคนนึงมาถามว่า พี่คับ ให้ผมเป็นไกด์พาเที่ยวไหมคับ
ไอ้เรายังหลอนจากน้อง พี่คนสวยอยู่ แต่พอหันไปหาพี่คนขับเค้าบอกว่า ลองดูก็ได้แล้วแต่จะให้ โอเค จัดไปลูก
ปรากฏน้องน่ารักมากกกก ตั้งใจทำหน้าที่ไกด์มาก พูดไม่หยุดเลย ฟังทันบ้างไม่ทันบ้าง
น้องชื่อลี มาเป็นไกด์เฉพาะวันศุกร์เสาร์อาทิตย์ วันธรรมดาไปเรียน ได้ตังมาก็จะเอาไปให้แม่ แม่มีร้านขายของด้วยนะ
รูปน้องลี

เราก็เดินผ่านทางที่มีของขายเยอะๆไป จริงๆจะว่าไปของที่นี่ขายถูกกว่าที่ถนนคนเดินด้วยแหละ ของที่ขายก็มีพวกชา หญ้าหวาน กระเป๋า เครื่องเงิน หินสี อะไรงี้
อันนี้เป็นร้านของแม่ของน้องเค้า ซื้อกระเป๋าเล็กๆไปสองอัน เอาใจน้องลี55555+

ขึ้นไปก็จะมีด่านเก็บเงิน10บาทเข้าชมสวนดอกไม้กับพิพิธภัณฑ์ชาวม้ง ก็จ่ายเข้าไป

ในส่วนของพิพิธภัณฑ์ชาวม้งก็จะมีพวกเครื่องใช้ต่างๆ น้องลีบอกว่าจริงๆมันไม่ได้เก่านะ แต่เค้าเอามาทำให้มันดูเก่า (ชะอ้าววว ไหงบอกแขกซะงั้นละลูก 5555+)

มีกลองส่งวิญญาณ? ถ้ามีคนตายถ้าเป็นคนดีๆนะ ตีกลองแล้วเค้าจะปรู๊ดดดดด ขึ้นไปอยู่บนฟ้า แต่ถ้าเป็นคนไม่ดีนะตู้มมมมจะลงนรก

มีพวกเครื่องแต่งกายม้งให้ดู

ถ้าใครอยากคอสเพลย์ข้างนอกก็มีให้คอสนะ ราคา50บาท เช่าตะกร้าม้งเป็นแอซเซสเซอรี่เพิ่มได้

น้องลีพาเดินขึ้นสวนดอกไม้


แดดเปรี้ยงปร้างเลย แต่สวย เดินผ่านพิพิธภัณฑ์มีชีวิต จะมีจำลองบ้านม้ง

น้องลีบอกว่าบ้านนี้มีผี แต่ผีจะหลอกแค่คนม้งเท่านั้น คนอื่นไม่หลอก (เอ๊ะยังไง ผีม้งดีกับการท่องเที่ยว) น้องเคยเจอหลายครั้ง
น้องลีบอกว่า ในบ้านม้งสมัยก่อนจะมีชั้นสอง (อารมณ์ประมาณเอาบันไดแปะแล้วขึ้นชั้นลอย ) ถ้าหากผีมา พ่อชาวม้งจะให้ลูกกะแม่ขึ้นไปข้างบนแล้วตัวเองอยู่ข้างล่างแล้วเอาบันไดออก ถ้าผีไปแล้วพ่อจะเอาบันไดไปรับ
แล้วถ้าพ่อตายล่ะลูก???? ป้าก็ฟังแล้วงงๆ
น้องพาไปดูที่โม่ข้าวโพด หนักอยู่ น้องลีบอกว่า ต้องเป็นผู้ชายม้งที่แข็งแรงเท่านั้น ถึงจะใช้ได้ ลองขยับดูก็ขยับนิดหน่อย
น้องบอกว่า ต้องเป็นผู้ชายม้งที่แข็งแรงเท่านั้น ผมเคยมาใช้กับเพื่อน ต้องใช้เด็กผู้ชายม้งสามคน
สงสัยอ่ะ เป็นผู้ชายแข็งแรงไม่ม้งใช้ได้ไหม 55555+ รักในน้ำเสียงจริงจังของน้องมาก
พอเดินผ่านสวนดอกไม้ขึ้นไป ข้างบนจะเป็นร้านกาแฟดอยปุย มองลงไปวิวสวยดี



จัดมากันคนละแก้ว มอคค่า กะคาราเมลมัคคิอาโต้

น้องลีบอกว่า แขกที่พามาชอบถามว่าจะกินอะไรไหม ผมก็ไม่อยากกิน แค่เค้าก็ชอบรบเร้า โอเคได้ ป้าไม่ถามละ 5555+
ขาเดินลง น้องลีได้คุกกี้มากล่องนึง เจ้าของร้านให้ ถามน้องว่าชอบกินคุกกี้เหรอ
น้องบอกว่าชอบคับ ข้างบนไม่ค่อยมีขนมกิน ผมอยากกินแฮมเบอร์เกอร์กับพิซซ่ามากเลย ไม่เคยกิน เคยแต่เห็นในทีวี พ่อเคยซื้อของเซเว่นมาให้ แต่ไม่อร่อย ถ้าผมโตแล้วทำงานมีเงินเยอะๆผมจะไปซื้อมากิน ไม่กล้าขอแม่แม่บอกว่าสิ้นเปลือง
ทำไมน่ารักอย่างงี้อ่ะลูกกกกกกกก
น้องลีพาไปดูบ่อปลา บอกว่านี่ปลาปิรันย่านะ แต่ป้าว่ามันปลาคาร์ฟนะลูก

น้องพาไปดูฝั่งน้ำตก


แต่น้ำน้อยมากจนนึกว่าไม่ใช่น้ำตก5555+ น้องบอกว่าหน้าฝนน้ำจะขึ้นมาเต็ม
ระหว่างนั้นมีเด็กผู้ชายคนนึงวิ่งมา แล้วก็เปลือยกาย อิป้าก็ตกใจ น้องลีบอกว่าเพื่อนมาอาบน้ำ พี่ทดสอบได้นะ

ทดสอบ???? ห๊ะ ให้ป้าทำไร? ฮีบอกว่า ให้โยนเหรียญลงไป แล้วเดี๋ยวเพื่อนจะว่ายน้ำไปเก็บเอง
อ๋อ เป็นการหลอกเอาตังป้า รู้เค้าหลอกแต่เต็มใจให้หลอก555555+
น้องคนที่อาบน้ำก็จ้างสิบเล่นหมื่นมาก เหรียญบาททำประหนึ่งแบงค์ร้อย ตลกดี

ก็เดินลงมา ป๊ะกับป้ายนี้ สตั๊นแป๊บ

ชักภาพกับน้องลี ก่อนจะกลับลงดอยไป

ให้ตังน้องเค้าไป100นึง ถามน้องว่าปกติเค้าให้กันเท่าไหร่ น้องบอกว่า 20-40 บางคนใจดีก็ให้100นึงแน่ะ เอาจริงๆนะ เราว่า100นึงคือคุ้มมาก อยากให้มากกว่านี้ แต่ป้าเองก็ยังไม่ทำงานเหมือนกัน
ไปต่อกันที่พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
ไปถึงก็จ่ายกะตังน่าจะ20ถ้าจำไม่ผิด ได้แผนที่มาอันนึง

ขอบคุณที่มา : http://pantip.com/topic/33807890/story
ไปถึงก็จ่ายกะตังน่าจะ20ถ้าจำไม่ผิด ได้แผนที่มาอันนึง

ไม่ค่อยได้ถ่ายรูป มัวแต่กรี๊ดกร๊าดกันว่าสวยเนอะ 55555+
มีแต่รูปบ้าๆบอๆ ผีเสื้อเยอะมากก เขียวมาก ดอกไม้สวย แม้จะไม่ใช่ช่วงพีค เพราะโรยเยอะเหมือนกัน ถ้ามาหน้าหนาวน่าจะสวรรค์มาก












เดินเรื่อยๆเลยเพราะอากาศเย็นๆ รองพื้นแน่นหนาไม่มีหลุดลอก
ถ้ามากับญาติผู้ใหญ่แนะนำให้เช่ารถกอลฟ์เพราะเดินเยอะอยู่
มีแต่รูปบ้าๆบอๆ ผีเสื้อเยอะมากก เขียวมาก ดอกไม้สวย แม้จะไม่ใช่ช่วงพีค เพราะโรยเยอะเหมือนกัน ถ้ามาหน้าหนาวน่าจะสวรรค์มาก












เดินเรื่อยๆเลยเพราะอากาศเย็นๆ รองพื้นแน่นหนาไม่มีหลุดลอก
ถ้ามากับญาติผู้ใหญ่แนะนำให้เช่ารถกอลฟ์เพราะเดินเยอะอยู่
คุณพี่ที่ขับรถเค้าก็พามาส่งไว้ที่ดอยสุเทพ ก็นั่งรถลงดอย จ่ายไป60บาท บอกให้เค้าพาไปส่งร้านข้าวซอย
ตกลงไปข้าวซอยลำดวน ฟ้าฮ่าม2

ในร้านก็ประมาณนี้
รายการอาหาร

เราสั่งน้ำเงี้ยว เพื่อนเราสั่งข้าวซอยรวม


น้ำเงี้ยวอร่อยอ้ะ ชอบบบบบบ ส่วนข้าวซอยก็อร่อย แต่เพื่อนกินไม่หมด เมารถ เลยแย่งกินเอง
น้ำชามะนาวกะเสาวรสก็อร่อยดี
กินเสร็จเดินข้ามถนน8เลนมา รู้สึกเสี่ยงชีวิต โบกรถแดงไปนิมมาน20บาท
หมดแรงเลยกลับมานอนก่อน
พอ5โมงกว่าๆก็ออกไปถนนคนเดินท่าแพ

ของขายก็อารมณ์ขายนักท่องเที่ยว พวกของที่ระลึก กระเป๋าผ้า เสื้อชาวเหนือ โคมไฟ จานรองแก้ว ถนนยาวมาก เจอวัดเรื่อยๆ
เดินๆไปฝนก็ตก
มีร้านไอติมต้นถนนอันนึงอร่อยดี เพื่อนกินไอติมแท่งอะโวกาโด รสชาติคาดเดาไม่ได้ แต่อร่อย
ของกินที่ขายเยอะก็พวกวาฟเฟิล ซื้อมากินอันนึง 35บาทถ้าคิด60ยังไม่โกรธ ใหญ่มาก เดินถือกินมาเรื่อยๆ ได้ยินเสียงซร๊วบบ ตกใจเกือบปล่อยลงพื้น ปรากฏเจอฝรั่งหัวเราะแล้วยิ้มให้ 55555+ อยากกินอ่ะเด้
จะไม่ค่อยมีถังขยะ ไม่รู้ทำไม แต่ซักพักจะมีnpc ที่ออกมาเป็นอีเวนต์เป็นแก๊งเด็กเสื้อดำเดินรณรงค์ทิ้งขยะถือถุงดำมา ถ่ายไม่ทัน รีบเอาขยะไปทิ้ง
ของกินจะไปอยู่พวกในวัด แต่ก็ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่สำหรับเรา
ทุกครั้งที่ได้กลิ่นทุเรียนหันไปจะเห็นชาวจีนเดินกินทุกเรียนอยู่
นี่ก็เดินมันทุกซอย เดินจนคนเชียงใหม่ถามว่าบ้าเหรอ ของมันก็ซ้ำๆกัน ก็นั่นแหละ มาแล้ว55555 จะเดินแม้ไม่ได้ของอะไร
s health ถึงกับขึ้นว่าเป็นวันที่คุณเคลื่อนไหวมากที่สุด
กลับมาน้ำตาลต่ำเลยแวะกินมนต์นมสดก่อนเข้าที่พัก
ตกลงไปข้าวซอยลำดวน ฟ้าฮ่าม2

ในร้านก็ประมาณนี้
รายการอาหาร

เราสั่งน้ำเงี้ยว เพื่อนเราสั่งข้าวซอยรวม


น้ำเงี้ยวอร่อยอ้ะ ชอบบบบบบ ส่วนข้าวซอยก็อร่อย แต่เพื่อนกินไม่หมด เมารถ เลยแย่งกินเอง
น้ำชามะนาวกะเสาวรสก็อร่อยดี
กินเสร็จเดินข้ามถนน8เลนมา รู้สึกเสี่ยงชีวิต โบกรถแดงไปนิมมาน20บาท
หมดแรงเลยกลับมานอนก่อน
พอ5โมงกว่าๆก็ออกไปถนนคนเดินท่าแพ

ของขายก็อารมณ์ขายนักท่องเที่ยว พวกของที่ระลึก กระเป๋าผ้า เสื้อชาวเหนือ โคมไฟ จานรองแก้ว ถนนยาวมาก เจอวัดเรื่อยๆ
เดินๆไปฝนก็ตก
มีร้านไอติมต้นถนนอันนึงอร่อยดี เพื่อนกินไอติมแท่งอะโวกาโด รสชาติคาดเดาไม่ได้ แต่อร่อย
ของกินที่ขายเยอะก็พวกวาฟเฟิล ซื้อมากินอันนึง 35บาทถ้าคิด60ยังไม่โกรธ ใหญ่มาก เดินถือกินมาเรื่อยๆ ได้ยินเสียงซร๊วบบ ตกใจเกือบปล่อยลงพื้น ปรากฏเจอฝรั่งหัวเราะแล้วยิ้มให้ 55555+ อยากกินอ่ะเด้
จะไม่ค่อยมีถังขยะ ไม่รู้ทำไม แต่ซักพักจะมีnpc ที่ออกมาเป็นอีเวนต์เป็นแก๊งเด็กเสื้อดำเดินรณรงค์ทิ้งขยะถือถุงดำมา ถ่ายไม่ทัน รีบเอาขยะไปทิ้ง
ของกินจะไปอยู่พวกในวัด แต่ก็ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่สำหรับเรา
ทุกครั้งที่ได้กลิ่นทุเรียนหันไปจะเห็นชาวจีนเดินกินทุกเรียนอยู่
นี่ก็เดินมันทุกซอย เดินจนคนเชียงใหม่ถามว่าบ้าเหรอ ของมันก็ซ้ำๆกัน ก็นั่นแหละ มาแล้ว55555 จะเดินแม้ไม่ได้ของอะไร
s health ถึงกับขึ้นว่าเป็นวันที่คุณเคลื่อนไหวมากที่สุด
กลับมาน้ำตาลต่ำเลยแวะกินมนต์นมสดก่อนเข้าที่พัก
Day 2 รีบแต่งตัวไปทำอาหารกินกันน
ทางเกสต์เฮาส์มาข้าว ขนมปัง ไข่ แฮม มาม่า ชา กาแฟ โอวัลติน ให้เป็นหลักๆ
บรรยากาศก็ประมาณนี้





อันนี้ข้าวเช้าเรา

แนะนำให้ทอดแฮมก่อนแล้วปิดไฟ แล้วค่อยตอกไข่ลงไปดาว ไม่งั้นจะได้ไข่สำหรับกินกับกระเพรา ไฟมันแรงง ใจมันแรงง จงมอดไหม้ให้เหมือนกับใจของฉันเลย (อะไรของแก)
แล้วรถก็มารับ เป็นjoin tripนะจ๊ะ
มีเราเป็นคนไทย2คน ชาวฮอลแลนด์คนนึง ฝรั่งเศสคนนึง จีน4 ไต้หวัน2
ไกด์ชื่อแม็ก มีเด็กฝึกงานจากมหาลัยคนนึงชื่อยู่ยี่ ไกด์อธิบายเป็นภาษาอังกฤษแบบเข้าใจง่ายๆ มีซาวน์เอฟเฟค มีลงท้ายด้วยนะทุกประโยค ชอบมาก น่ารักดี
นั่งรถไป หลับๆตื่นๆ แนะนำยาแก้เมารถคือสิ่งดีงาม
ตื่นมา ที่ยอดดอยอินทนนท์
งัวๆเงียๆแต่พุ่งตัวไปถ่ายรูปกับป้ายสูงสุดแดนสยาม นักท่องเที่ยวคนอื่นงงๆ อีสองคนนี่เป็นไร?

เดินมาอีกซักพักไกด์บอกตรงนี้สูงสุดจริงตรงนั้นไว้ถ่ายรูป (เอ๊ะยังไง)

เดินมาอีกเจอกู่พระเจ้าอินทวิชยานนท์


ซึ่งเป็นผู้ครองนครเชียงใหม่คนสุดท้าย แล้วก็เป็นพระบิดาของเจ้าดารารัศมีใน รัชกาลที่5 ด้วย ไกด์บอกว่าการแต่งงานของเจ้าดารารัศมีกับร.5ทำให้สามารถรวมประเทศไทยได้ ซึ่งพระเจ้าอินทวิชยานนท์ทรงโปรดดอยอินทนนท์มาก เลยนำพระอัฐิไปไว้ที่ณ พระสถูปบนยอด ดอยอินทนนท์ ภายหลังก็มีของเจ้าดารารัศมีตามมาด้วย ฟังมาประมาณนี้
ขออภัยไม่เก่งราชาศัพท์และฟังมาเป็นเวอร์ชั่นอังกฤษนะกั๊บ ผิดอะไรแก้ได้เลย (ตอนแรกก็งง อะไรคือสทูป้า)
จากนั้นก็ไปเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา
อากาศเย็น ต้นไม้สวย เฟิร์นมอสครึ้มม ไฮไลท์คือกุหลาบหินที่ปกติจะขึ้นที่ๆสูงจากระดับน้ำทะเลมากๆ แต่ว่าปีนี้ไม่ค่อยออกดอก







ต่อมาไปพระมหาธาตุ พระธาตุนภเมทินีดล-นภพลภูมิสิริ

มีบันไดเลื่อน ขอบันไดเลื่อนละกัน
ขึ้นไป ไหว้พระ ชมวิว






สวยยยยย
เดินดูสวนดอกไม้ ฟ้าสวยมากๆ
อยู่คนเดียว อยู่ลำพัง หว่าเว๊

ตอนแรกเห็นชุดชาวเผ่านั่งกันเรียงรายดูน่ารัก พอเอากล้องไปถ่ายเค้าลุกขึ้นยืน ดูดุดันซะงั้น

วาร์ปมาโครงการหลวง
ไม่ค่อยมีอะไร มีหงส์ ไกด์ไม่ได้พาเดินแต่เอาอาหารหงส์ยัดใส่มือ

มีดอกไม้ แต่เหนื่อยแล้ว หงส์นี้เห็นป้ายติดว่าพี่เบิร์ดให้มา

มีร้านโครงการหลวง กาแฟไม่ค่อยอร่อยออกหวาน
มะเขือเทศลูกเล็ก20บาทกินสองคนสองวันยังไม่หมด ฉ่ำมากกก
ไปน้ำตกเล็ก สิริธาร


ไปน้ำตกวชิราธาร


มีการสื่อสารกับฝรั่งสองคนเนื่องจากยิ้มไปยิ้มมา ตอนแรกนึกว่าตาคนฝรั่งเศสแอ๊วน้องฝึกงาน จริงๆคือฮีเหงามาก เลยคุยด้วย
ส่วนตาคนฮอลแลนด์เป็นผจก.บริษัทไฟแนนซ์ เดี๋ยวไปภูเกตต่อ
สำหรับการสื่อสารกับชาวจีน ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เพียงแค่ยิ้มให้ฮีทำประหนึ่งผีหลอก หันไปมองด้านหลังประหนึ่งว่าอิฉันยิ้มให้วิญญาณที่ผ่านมา โอเค ไม่คุยด้วยก็ได้ฮะ
น้ำตกสวยดี ขึ้นไปได้แป๊บนึงฝนตก แต่ชาวเกาหลีสองคนยังกางร่มมุ้งมิ้งมองดูน้ำตกกว่าครึ่งชั่วโมง โรแมนติกอ้ะ

จบทริปด้วยการไปหมู่บ้านกระเหรี่ยงแต่คอไม่ยาว ไกด์พูดเรื่องโครงการหลวงที่มาเปลี่ยนชีวิตชาวกระเหรี่ยงจากทำไร่ฝิ่นมาทำนาขั้นบันไดและให้สิทธิพิเศษต่างๆเพื่อจะได้ไม่หันไปทำสิ่งที่ผิด ทั้งหมดนี้เกิดได้เพราะking ของเรา


จบทริป one day trip หลับยาววว โผล่อีกทีที่ที่พักประมาณ5โมงกว่าๆ
ทางเกสต์เฮาส์มาข้าว ขนมปัง ไข่ แฮม มาม่า ชา กาแฟ โอวัลติน ให้เป็นหลักๆ
บรรยากาศก็ประมาณนี้





อันนี้ข้าวเช้าเรา

แนะนำให้ทอดแฮมก่อนแล้วปิดไฟ แล้วค่อยตอกไข่ลงไปดาว ไม่งั้นจะได้ไข่สำหรับกินกับกระเพรา ไฟมันแรงง ใจมันแรงง จงมอดไหม้ให้เหมือนกับใจของฉันเลย (อะไรของแก)
แล้วรถก็มารับ เป็นjoin tripนะจ๊ะ
มีเราเป็นคนไทย2คน ชาวฮอลแลนด์คนนึง ฝรั่งเศสคนนึง จีน4 ไต้หวัน2
ไกด์ชื่อแม็ก มีเด็กฝึกงานจากมหาลัยคนนึงชื่อยู่ยี่ ไกด์อธิบายเป็นภาษาอังกฤษแบบเข้าใจง่ายๆ มีซาวน์เอฟเฟค มีลงท้ายด้วยนะทุกประโยค ชอบมาก น่ารักดี
นั่งรถไป หลับๆตื่นๆ แนะนำยาแก้เมารถคือสิ่งดีงาม
ตื่นมา ที่ยอดดอยอินทนนท์
งัวๆเงียๆแต่พุ่งตัวไปถ่ายรูปกับป้ายสูงสุดแดนสยาม นักท่องเที่ยวคนอื่นงงๆ อีสองคนนี่เป็นไร?

เดินมาอีกซักพักไกด์บอกตรงนี้สูงสุดจริงตรงนั้นไว้ถ่ายรูป (เอ๊ะยังไง)

เดินมาอีกเจอกู่พระเจ้าอินทวิชยานนท์


ซึ่งเป็นผู้ครองนครเชียงใหม่คนสุดท้าย แล้วก็เป็นพระบิดาของเจ้าดารารัศมีใน รัชกาลที่5 ด้วย ไกด์บอกว่าการแต่งงานของเจ้าดารารัศมีกับร.5ทำให้สามารถรวมประเทศไทยได้ ซึ่งพระเจ้าอินทวิชยานนท์ทรงโปรดดอยอินทนนท์มาก เลยนำพระอัฐิไปไว้ที่ณ พระสถูปบนยอด ดอยอินทนนท์ ภายหลังก็มีของเจ้าดารารัศมีตามมาด้วย ฟังมาประมาณนี้
ขออภัยไม่เก่งราชาศัพท์และฟังมาเป็นเวอร์ชั่นอังกฤษนะกั๊บ ผิดอะไรแก้ได้เลย (ตอนแรกก็งง อะไรคือสทูป้า)
จากนั้นก็ไปเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา
อากาศเย็น ต้นไม้สวย เฟิร์นมอสครึ้มม ไฮไลท์คือกุหลาบหินที่ปกติจะขึ้นที่ๆสูงจากระดับน้ำทะเลมากๆ แต่ว่าปีนี้ไม่ค่อยออกดอก







ต่อมาไปพระมหาธาตุ พระธาตุนภเมทินีดล-นภพลภูมิสิริ

มีบันไดเลื่อน ขอบันไดเลื่อนละกัน
ขึ้นไป ไหว้พระ ชมวิว






สวยยยยย
เดินดูสวนดอกไม้ ฟ้าสวยมากๆ
อยู่คนเดียว อยู่ลำพัง หว่าเว๊

ตอนแรกเห็นชุดชาวเผ่านั่งกันเรียงรายดูน่ารัก พอเอากล้องไปถ่ายเค้าลุกขึ้นยืน ดูดุดันซะงั้น

วาร์ปมาโครงการหลวง
ไม่ค่อยมีอะไร มีหงส์ ไกด์ไม่ได้พาเดินแต่เอาอาหารหงส์ยัดใส่มือ

มีดอกไม้ แต่เหนื่อยแล้ว หงส์นี้เห็นป้ายติดว่าพี่เบิร์ดให้มา

มีร้านโครงการหลวง กาแฟไม่ค่อยอร่อยออกหวาน
มะเขือเทศลูกเล็ก20บาทกินสองคนสองวันยังไม่หมด ฉ่ำมากกก
ไปน้ำตกเล็ก สิริธาร


ไปน้ำตกวชิราธาร


มีการสื่อสารกับฝรั่งสองคนเนื่องจากยิ้มไปยิ้มมา ตอนแรกนึกว่าตาคนฝรั่งเศสแอ๊วน้องฝึกงาน จริงๆคือฮีเหงามาก เลยคุยด้วย
ส่วนตาคนฮอลแลนด์เป็นผจก.บริษัทไฟแนนซ์ เดี๋ยวไปภูเกตต่อ
สำหรับการสื่อสารกับชาวจีน ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เพียงแค่ยิ้มให้ฮีทำประหนึ่งผีหลอก หันไปมองด้านหลังประหนึ่งว่าอิฉันยิ้มให้วิญญาณที่ผ่านมา โอเค ไม่คุยด้วยก็ได้ฮะ
น้ำตกสวยดี ขึ้นไปได้แป๊บนึงฝนตก แต่ชาวเกาหลีสองคนยังกางร่มมุ้งมิ้งมองดูน้ำตกกว่าครึ่งชั่วโมง โรแมนติกอ้ะ

จบทริปด้วยการไปหมู่บ้านกระเหรี่ยงแต่คอไม่ยาว ไกด์พูดเรื่องโครงการหลวงที่มาเปลี่ยนชีวิตชาวกระเหรี่ยงจากทำไร่ฝิ่นมาทำนาขั้นบันไดและให้สิทธิพิเศษต่างๆเพื่อจะได้ไม่หันไปทำสิ่งที่ผิด ทั้งหมดนี้เกิดได้เพราะking ของเรา


จบทริป one day trip หลับยาววว โผล่อีกทีที่ที่พักประมาณ5โมงกว่าๆ
กลับถึงที่พัก โทรหาเพื่อนที่มาทำงานเชียงใหม่ ฮีเลิกงานพอดี เลยจะพาไปกินข้าวเย็น
โบกรถแดงมาหลังมอชอ 20บาท บอกลงประตูเกษตร
ก็ไม่เจอกันซักที หรือรถแดงพามาผิดที่เลยเดินเข้าร้านขายยาไปซื้อยาดมอันนึงแล้วขอความช่วยเหลือยื่นโทรศัพท์ให้คุยกับเพื่อนนี่
สรุปประตูเกษตรมีสองที่ แต่เด็กๆจะเรียกประตูนี้ว่าประตูโครงการหลวง ไม่มีใครผิด เดินต่อจ้า
เพื่อนเราพาเข้าซอยวัดอุโมงค์ไปโผล่ร้าน “ถึงเจียงใหม่”
ร้านดูบ้านๆเพิงๆ เห็นแล้วเดินผ่านไปโดยไม่รู้ได้เลย



สั่งอาหารมา อาหารจะเป็นจานเล็กๆทำให้สั่งได้หลายอย่าง เป็นอาหารเหนือของแท้
มีแกงฮังเล อร่อย

ยำไก่เมือง ก็อร่อย เป็นต้มๆร้อนๆเผ็ดๆซดคล่องคอ

ต้มหน่อไม้หวาน หน่อไม้นิ่ม น้ำต้มหวานหอม

คั่วเห็ดลม? มั้ง จำชื่อไม่ได้ แต่มันคือเห็ดลม หน้าตาเหมือนเครื่องในอะไรซักอย่างกินแล้วเป็นเห็ด กรอบๆแปลกๆดี

น้ำพริกอ่อง อันนี้กลางๆ แต่เพื่อนเราก็ว่าอร่อย

ตำมะม่วงน้ำปู๋? ไม่แน่ใจชื่อ แต่เราชอบมากกกกกก

จิ้นวัว หอมๆดี

คือทุกอย่างกินแล้วถูกต้องมากๆประทับใจ กินกันท้องยุ้งพุงกระสอบตกคนละ140
อิ่มแล้วยังไม่สาแก่ใจ ไปร้านขนมvolcanoต่อ ร้านมีสองชั้นบรรยากาศน่านั่ง

เน้นโทสเป็นหลัก มีโวลคาโน่โทส เฟรนช์โทส ฮอกไกโดโทส เจแปนนิสโทส เดนิสโทส เลือกท็อปปิ้งกับระดับความหวานได้ มีฟองดูว์ด้วยนะ

สำหรับเครื่องดื่มร้านนี้ไม่แพงเลยประมาณ30-40บาท
เรากินชาพีช เพื่อนเรากินนมชาเขียว กินแล้วถูกต้องทั้งคู่

สั่งโวลคาโน่โทสหวานกลางไป อร่อยยย

เฟรนช์โทส โอเค

อยากลองเดนนิสโทสแต่อิ่มละ
กลับมานอนที่พักต่อ ตั้งใจจะไปนั่งแฮงก์เอาท์เล่นๆ ปรากฏหลับจ้า
โบกรถแดงมาหลังมอชอ 20บาท บอกลงประตูเกษตร
ก็ไม่เจอกันซักที หรือรถแดงพามาผิดที่เลยเดินเข้าร้านขายยาไปซื้อยาดมอันนึงแล้วขอความช่วยเหลือยื่นโทรศัพท์ให้คุยกับเพื่อนนี่
สรุปประตูเกษตรมีสองที่ แต่เด็กๆจะเรียกประตูนี้ว่าประตูโครงการหลวง ไม่มีใครผิด เดินต่อจ้า
เพื่อนเราพาเข้าซอยวัดอุโมงค์ไปโผล่ร้าน “ถึงเจียงใหม่”
ร้านดูบ้านๆเพิงๆ เห็นแล้วเดินผ่านไปโดยไม่รู้ได้เลย



สั่งอาหารมา อาหารจะเป็นจานเล็กๆทำให้สั่งได้หลายอย่าง เป็นอาหารเหนือของแท้
มีแกงฮังเล อร่อย

ยำไก่เมือง ก็อร่อย เป็นต้มๆร้อนๆเผ็ดๆซดคล่องคอ

ต้มหน่อไม้หวาน หน่อไม้นิ่ม น้ำต้มหวานหอม

คั่วเห็ดลม? มั้ง จำชื่อไม่ได้ แต่มันคือเห็ดลม หน้าตาเหมือนเครื่องในอะไรซักอย่างกินแล้วเป็นเห็ด กรอบๆแปลกๆดี

น้ำพริกอ่อง อันนี้กลางๆ แต่เพื่อนเราก็ว่าอร่อย

ตำมะม่วงน้ำปู๋? ไม่แน่ใจชื่อ แต่เราชอบมากกกกกก

จิ้นวัว หอมๆดี

คือทุกอย่างกินแล้วถูกต้องมากๆประทับใจ กินกันท้องยุ้งพุงกระสอบตกคนละ140
อิ่มแล้วยังไม่สาแก่ใจ ไปร้านขนมvolcanoต่อ ร้านมีสองชั้นบรรยากาศน่านั่ง

เน้นโทสเป็นหลัก มีโวลคาโน่โทส เฟรนช์โทส ฮอกไกโดโทส เจแปนนิสโทส เดนิสโทส เลือกท็อปปิ้งกับระดับความหวานได้ มีฟองดูว์ด้วยนะ

สำหรับเครื่องดื่มร้านนี้ไม่แพงเลยประมาณ30-40บาท
เรากินชาพีช เพื่อนเรากินนมชาเขียว กินแล้วถูกต้องทั้งคู่

สั่งโวลคาโน่โทสหวานกลางไป อร่อยยย

เฟรนช์โทส โอเค

อยากลองเดนนิสโทสแต่อิ่มละ
กลับมานอนที่พักต่อ ตั้งใจจะไปนั่งแฮงก์เอาท์เล่นๆ ปรากฏหลับจ้า
Day3
ตั้งใจจะไปกินโจ๊กต้นพะยอม แต่เห็นคนทำข้าวเช้าแล้วอยากทำมั่ง 5555+
วันนี้ลองทอดไข่ด้วยมาการีนกับทำไข่กวนด้วย

ทำข้าวผัดได้นะ เพื่อนเราทำแต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา
ลืมบอกเกสเฮาส์มีหมาด้วย ชื่อน้องป๊อบคอร์น น่ารักมาก ทำตัวสมเป็นบีเกิ้ลมาก พลังงานสูงทีเดียว ชอบปีนขึ้นตัก แต่อยู่นี่เฉพาะตอนเช้า ตอนอื่นไปอยู่เกสต์เฮาส์อื่นของคุณเจ้าของ แกมีหลายที่

กินเสร็จโบกรถแดง ไปตลาดต้นพะยอม
อ้าวมันคือหลังมอเมื่อวานนี่นา 55555+ เพิ่งรู้

ตอบโจทย์อยู่นะถ้าอยากซื้อของฝาก
แต่ประทับใจป้ายนี้

เดินๆแป๊บๆหมด ประหนึ่งเข้าเซเว่น ไปไหนดีหว่า
ออกมากินโจ๊กก่อน มีร้านโจ๊กติดกันสองร้าน เราเข้าร้านโจ๊กต้นพะยอม


เมนูก็ประมาณนี้ เรากินโจ๊กหมู เพื่อนกินโจ๊กหมู+เครื่องในใส่ไข่

โจ๊กเนื้อนุ่มดี เป็นแบบแนวข้นๆครีมๆ ปกติเราจะกินแบบมีเนื้อข้าวเล็กๆ แต่แบบนี้ก็อร่อยดี
เพื่อนบอกเครื่องในโอเค หมูก้อนปรุงรสอร่อยดี อ่อมีปาท่องโก๋ด้วยแต่ไม่ได้กิน
โบกรถแดงวาร์ปมาสวนสัตว์เชียงใหม่
มีตั๋วธรรมดากับอะควาเรียม ธรรมดา50อะควาเรียม200 จัดไปอะควาเรียม

แล้วจะมีรถไปส่งอะควาเรี่ยม

ก็ประมาณนี้




สรุปเฉยๆ น้ำไม่ค่อยใส ไฟไม่ค่อยสวยตรงส่วนอุโมงค์ ส่วนอื่นปลาน้อยไปหน่อยกับป้ายบอกไม่ค่อยมี มีก็ไม่ละเอียดบ้าง บางทีมีป้ายไม่มีปลา
ไปทันเค้าให้อาหารปลาด้วย

ออกมาสวนสัตว์ ซื้อตั๋วรถรอบสวนสัตว์ราคา30บาท




ถ้าไม่เอารถไปก็ซื้อตั๋วรถเถอะ อย่าเดิน บาดเจ็บล้มตายแน่นอน
ลงไปเป็นช่วงๆ พอเหนื่อยแล้วก็เลยออก เพราะกลัวออกมากินก๋วยจั๊บสามกษัตริย์ไม่ทัน
ร้านปิดบ่ายสอง โบกรถแดงมา40บาท ขี้เกียจต่อแล้ว เลยอ่ะ โอเค
โผล่ที่อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ รถแดงถามว่าร้านก๋วยจั๊บหนูอยู่ไหน เอ่อ หนูก็ไม่รู้ค่ะป้า หนูนึกว่าป้าจะรู้ 5555+

สรุปมีนักศึกษามช.มาช่วยชีวิตไว้ เดินไปตามทาง อยู่ตรงข้ามหอศิลป์เลยจ้า
จัดมาคนละชาม60บาทแอบแพง



ซดคำแรก ฉุนพริกไทยหวานน้ำต้มกระดูก เส้นไม่เละ หมูกรอบใหญ่มาก ผ่านค่ะ อร่อยดี
ปกติไม่กินก๋วยจั๊บนะ ไม่ชอบตรงเส้นมันเละ พอกินจะหมดมันจะผะอืดผะอม แต่อันนี้อร่อย คือดี
ออกมาลองเดินเข้าหอศิลป์ค่าเข้า10บาท จัดไป


เป็นพิพิฑภัณธ์แบบเก่าๆหน่อยประเภทกดแล้วไฟขึ้น กดแล้วมีเสียง แต่ตัวอักษรแน่น อ่านลำบาก



ก็มีประวัติ วิถีชีวิต กษัตริย์ล้านนา ของใช้ ประมาณนั้น
โบกรถแดงกลับที่พัก เก็บข้าวเก็บของ
สำหรับส่วนของที่พัก เราชอบนะ วันหลังคงมาซ้ำ คนดูแลอัธยาศัยดีมากกกก
นั่งรอพี่ใหม่มารับไปกินขนมที่ดาราเทวี
แอบไกลอยู่นะ ถ้าไปรถแดงคงต้องเหมา
หน้าร้าน เค้าบอกว่าช่วงนี้ไม่มีบุฟเพราะพอดีปรับปรุง พี่ใหม่บอกว่าปกติข้างนอกจะเป็นโซนบุฟ

จัดไอติมมาชุดเล็ก ช่วงนี้เป็นเทศกาล 9ลูก มีคาราเมล สตรอชีส แมงโก้ชีส โรสลิ้นจี่ นูเทลล่า ช็อกบานาน่า ทับทิมกรอบ พีช แล้วก็อะไรซักอย่างจำไม่ได้ มาพร้อมกับแมคคาเดียเมีย อัลม่อน ช็อกโกและและสตรอเบอรี่ซอส

สรุปคือละมุนดี แต่ก็เฉยๆนะ คิดว่าจะเมพกว่านี้หน่อย ละลายเร็วมากกินแทบไม่ทัน
มาการองชิ้นละ25จัดมาสองชิ้น
มีโปรชูครีม+น้ำอยู่ ราคาพอๆกับซื้อน้ำเฉยๆเลยจัดมา เป็นชาเอิร์ลเกรย์กับชาพีชไว้ตัดเลี่ยน ชาหมดกาเติมน้ำร้อนให้
ชูครีมอร่อยดี ครีมเยอะละมุนดี เปลือกเฉยๆแต่เพื่อนบอกกินหมดอันเริ่มเลี่ยน แต่เราโอเค
มาการอง จัดมาการองเอิร์ลเกรย์กับคาราเมลที่เราชอบมา ของเพื่อนเป็นข้าวเหนียวมะม่วงกับช็อกโกแลตแพชชั่นฟรุต เราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
ค่าเสียหาย
พี่ใหม่ถามว่า ไปกินอะไรต่อดี
เดี๋ยวนะคะ หนูเพิ่งจัดก๋วยจั๊บกะขนมมานะคะT^T
เลยขอให้พาไปซื้อของฝากตกลง ไปที่กาดหลวงจ้า
ร้านรวงปิดเกือบหมดเพราะเป็นตอนเย็น ได้แคปหมูน้ำพริกหนุ่มดำรงมา พี่ใหม่บอกว่าดังก็เชื่อเขา
กินอะไรอีกดี งือออออออออออออออออ ต้องกินอีกแล้วเหรอ
จัดไป สลัดคอนเซปท์อันขึ้นชื่อลือชา
ไปสาขาอะไรไม่รู้แต่ไม่ใช่นิมมาน
ก็จะเป็นมีสลัดเป็นเบส มีแบบม้วนกับไม่ม้วน เลือกท็อปปิ้งกะน้ำได้ เลือกพวกเนื้อสัตว์เพิ่มได้

แต่เราสั่งอันที่เป็นเซต เป็นสลัดเนื้อ ญี่ปุ่นอะไรซักอย่างกับของเพื่อนเป็นสลัดปลาดิบวาซาบิ


จานใหญ่มากกก แต่ผักกรอบไม่ขม มะเขือเทศฉ่ำ เนื้อเยอะมาก คุ้มราคา ปลาดิบก็อร่อย แต่กินไปซักพักจะเหนื่อยเพราะฉุนวาซาบิ
ถ้าเป็นพวกกินพืช ร้านนี้คือดี
ไม่มีบิล โดนเค้าเลี้ยงกั๊บ//กราบบ
แล้วก็ไปสนามบิน กลับบ้านโดยสวัสดิภาพ
ขอบคุณที่อ่านรีวิวจนจบนะคะ ^^
ไว้คราวหน้าเที่ยวอีกจะมาเล่าให้ฟังนะ
เพิ่งรู้ว่าเขียนรีวิวนี่ก็เหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ยยย เม้นติชมได้นะคะ^^
ตั้งใจจะไปกินโจ๊กต้นพะยอม แต่เห็นคนทำข้าวเช้าแล้วอยากทำมั่ง 5555+
วันนี้ลองทอดไข่ด้วยมาการีนกับทำไข่กวนด้วย

ทำข้าวผัดได้นะ เพื่อนเราทำแต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา
ลืมบอกเกสเฮาส์มีหมาด้วย ชื่อน้องป๊อบคอร์น น่ารักมาก ทำตัวสมเป็นบีเกิ้ลมาก พลังงานสูงทีเดียว ชอบปีนขึ้นตัก แต่อยู่นี่เฉพาะตอนเช้า ตอนอื่นไปอยู่เกสต์เฮาส์อื่นของคุณเจ้าของ แกมีหลายที่

กินเสร็จโบกรถแดง ไปตลาดต้นพะยอม
อ้าวมันคือหลังมอเมื่อวานนี่นา 55555+ เพิ่งรู้

ตอบโจทย์อยู่นะถ้าอยากซื้อของฝาก
แต่ประทับใจป้ายนี้

เดินๆแป๊บๆหมด ประหนึ่งเข้าเซเว่น ไปไหนดีหว่า
ออกมากินโจ๊กก่อน มีร้านโจ๊กติดกันสองร้าน เราเข้าร้านโจ๊กต้นพะยอม


เมนูก็ประมาณนี้ เรากินโจ๊กหมู เพื่อนกินโจ๊กหมู+เครื่องในใส่ไข่

โจ๊กเนื้อนุ่มดี เป็นแบบแนวข้นๆครีมๆ ปกติเราจะกินแบบมีเนื้อข้าวเล็กๆ แต่แบบนี้ก็อร่อยดี
เพื่อนบอกเครื่องในโอเค หมูก้อนปรุงรสอร่อยดี อ่อมีปาท่องโก๋ด้วยแต่ไม่ได้กิน
โบกรถแดงวาร์ปมาสวนสัตว์เชียงใหม่
มีตั๋วธรรมดากับอะควาเรียม ธรรมดา50อะควาเรียม200 จัดไปอะควาเรียม

แล้วจะมีรถไปส่งอะควาเรี่ยม

ก็ประมาณนี้




สรุปเฉยๆ น้ำไม่ค่อยใส ไฟไม่ค่อยสวยตรงส่วนอุโมงค์ ส่วนอื่นปลาน้อยไปหน่อยกับป้ายบอกไม่ค่อยมี มีก็ไม่ละเอียดบ้าง บางทีมีป้ายไม่มีปลา
ไปทันเค้าให้อาหารปลาด้วย

ออกมาสวนสัตว์ ซื้อตั๋วรถรอบสวนสัตว์ราคา30บาท




ถ้าไม่เอารถไปก็ซื้อตั๋วรถเถอะ อย่าเดิน บาดเจ็บล้มตายแน่นอน
ลงไปเป็นช่วงๆ พอเหนื่อยแล้วก็เลยออก เพราะกลัวออกมากินก๋วยจั๊บสามกษัตริย์ไม่ทัน
ร้านปิดบ่ายสอง โบกรถแดงมา40บาท ขี้เกียจต่อแล้ว เลยอ่ะ โอเค
โผล่ที่อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ รถแดงถามว่าร้านก๋วยจั๊บหนูอยู่ไหน เอ่อ หนูก็ไม่รู้ค่ะป้า หนูนึกว่าป้าจะรู้ 5555+

สรุปมีนักศึกษามช.มาช่วยชีวิตไว้ เดินไปตามทาง อยู่ตรงข้ามหอศิลป์เลยจ้า
จัดมาคนละชาม60บาทแอบแพง



ซดคำแรก ฉุนพริกไทยหวานน้ำต้มกระดูก เส้นไม่เละ หมูกรอบใหญ่มาก ผ่านค่ะ อร่อยดี
ปกติไม่กินก๋วยจั๊บนะ ไม่ชอบตรงเส้นมันเละ พอกินจะหมดมันจะผะอืดผะอม แต่อันนี้อร่อย คือดี
ออกมาลองเดินเข้าหอศิลป์ค่าเข้า10บาท จัดไป


เป็นพิพิฑภัณธ์แบบเก่าๆหน่อยประเภทกดแล้วไฟขึ้น กดแล้วมีเสียง แต่ตัวอักษรแน่น อ่านลำบาก



ก็มีประวัติ วิถีชีวิต กษัตริย์ล้านนา ของใช้ ประมาณนั้น
โบกรถแดงกลับที่พัก เก็บข้าวเก็บของ
สำหรับส่วนของที่พัก เราชอบนะ วันหลังคงมาซ้ำ คนดูแลอัธยาศัยดีมากกกก
นั่งรอพี่ใหม่มารับไปกินขนมที่ดาราเทวี
แอบไกลอยู่นะ ถ้าไปรถแดงคงต้องเหมา
หน้าร้าน เค้าบอกว่าช่วงนี้ไม่มีบุฟเพราะพอดีปรับปรุง พี่ใหม่บอกว่าปกติข้างนอกจะเป็นโซนบุฟ

จัดไอติมมาชุดเล็ก ช่วงนี้เป็นเทศกาล 9ลูก มีคาราเมล สตรอชีส แมงโก้ชีส โรสลิ้นจี่ นูเทลล่า ช็อกบานาน่า ทับทิมกรอบ พีช แล้วก็อะไรซักอย่างจำไม่ได้ มาพร้อมกับแมคคาเดียเมีย อัลม่อน ช็อกโกและและสตรอเบอรี่ซอส

สรุปคือละมุนดี แต่ก็เฉยๆนะ คิดว่าจะเมพกว่านี้หน่อย ละลายเร็วมากกินแทบไม่ทัน
มาการองชิ้นละ25จัดมาสองชิ้น
มีโปรชูครีม+น้ำอยู่ ราคาพอๆกับซื้อน้ำเฉยๆเลยจัดมา เป็นชาเอิร์ลเกรย์กับชาพีชไว้ตัดเลี่ยน ชาหมดกาเติมน้ำร้อนให้
ชูครีมอร่อยดี ครีมเยอะละมุนดี เปลือกเฉยๆแต่เพื่อนบอกกินหมดอันเริ่มเลี่ยน แต่เราโอเค
มาการอง จัดมาการองเอิร์ลเกรย์กับคาราเมลที่เราชอบมา ของเพื่อนเป็นข้าวเหนียวมะม่วงกับช็อกโกแลตแพชชั่นฟรุต เราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
ค่าเสียหาย
พี่ใหม่ถามว่า ไปกินอะไรต่อดี
เดี๋ยวนะคะ หนูเพิ่งจัดก๋วยจั๊บกะขนมมานะคะT^T
เลยขอให้พาไปซื้อของฝากตกลง ไปที่กาดหลวงจ้า
ร้านรวงปิดเกือบหมดเพราะเป็นตอนเย็น ได้แคปหมูน้ำพริกหนุ่มดำรงมา พี่ใหม่บอกว่าดังก็เชื่อเขา
กินอะไรอีกดี งือออออออออออออออออ ต้องกินอีกแล้วเหรอ
จัดไป สลัดคอนเซปท์อันขึ้นชื่อลือชา
ไปสาขาอะไรไม่รู้แต่ไม่ใช่นิมมาน
ก็จะเป็นมีสลัดเป็นเบส มีแบบม้วนกับไม่ม้วน เลือกท็อปปิ้งกะน้ำได้ เลือกพวกเนื้อสัตว์เพิ่มได้

แต่เราสั่งอันที่เป็นเซต เป็นสลัดเนื้อ ญี่ปุ่นอะไรซักอย่างกับของเพื่อนเป็นสลัดปลาดิบวาซาบิ


จานใหญ่มากกก แต่ผักกรอบไม่ขม มะเขือเทศฉ่ำ เนื้อเยอะมาก คุ้มราคา ปลาดิบก็อร่อย แต่กินไปซักพักจะเหนื่อยเพราะฉุนวาซาบิ
ถ้าเป็นพวกกินพืช ร้านนี้คือดี
ไม่มีบิล โดนเค้าเลี้ยงกั๊บ//กราบบ
แล้วก็ไปสนามบิน กลับบ้านโดยสวัสดิภาพ
ขอบคุณที่อ่านรีวิวจนจบนะคะ ^^
ไว้คราวหน้าเที่ยวอีกจะมาเล่าให้ฟังนะ
เพิ่งรู้ว่าเขียนรีวิวนี่ก็เหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ยยย เม้นติชมได้นะคะ^^
ขอบคุณที่มา : http://pantip.com/topic/33807890/story
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น